blog

โรคหัวใจ: ภัยเงียบที่ควรรู้จักและป้องกัน

Written by Hugsook | Mar 25, 2025 4:59:55 AM

โรคหัวใจ เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลกและประเทศไทย เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกายอย่างรุนแรง การรู้จักโรคหัวใจและวิธีการป้องกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก

ประเภทของโรคหัวใจ

  1. โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease - CAD)

    • เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปยังหัวใจตีบหรืออุดตัน ส่งผลให้หัวใจได้รับเลือดและออกซิเจนน้อยลง
    • อาการที่พบได้บ่อย เช่น เจ็บหน้าอกขณะออกแรง, เหนื่อยง่าย, หายใจลำบาก
  2. โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial Infarction - MI)

    • หรือที่เรียกกันว่า “หัวใจวาย” เกิดจากหลอดเลือดที่อุดตันอย่างเฉียบพลัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจส่วนหนึ่งเสียหายจากการขาดเลือด
    • อาการเฉียบพลัน ได้แก่ เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง, เหงื่อออกมาก, คลื่นไส้, หายใจไม่ออก
  3. โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia)

    • ภาวะที่หัวใจเต้นเร็วเกินไป ช้าเกินไป หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เลือดไม่สามารถสูบฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • อาการที่อาจเกิดขึ้น เช่น ใจสั่น, เวียนศีรษะ, เป็นลม
  4. โรคลิ้นหัวใจ (Valvular Heart Disease)

    • เกิดจากความผิดปกติของลิ้นหัวใจ เช่น การตีบตันหรือรั่ว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ
    • อาการที่พบ เช่น เหนื่อยง่าย, หายใจลำบาก, เจ็บหน้าอก

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

  • กรรมพันธุ์: หากมีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นโรคหัวใจ โอกาสที่คุณจะเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต: การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

  • อาหารที่ไม่เหมาะสม: อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง น้ำตาลสูง และเกลือมากเกินไป สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้

  • ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ: ความเครียดเรื้อรังและการนอนหลับที่ไม่เพียงพอมีผลต่อการเพิ่มความดันโลหิตและส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น

อาการของโรคหัวใจ

  • เจ็บแน่นหน้าอก: มักเกิดขณะออกแรงหรือเครียด รู้สึกเหมือนมีน้ำหนักกดทับบริเวณหน้าอก

  • หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม: โดยเฉพาะเมื่อออกแรงหรือเมื่อนอนราบ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดหัวใจหรือหัวใจล้มเหลว

  • เวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม: อาจเกิดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือความดันโลหิตที่ต่ำลงอย่างฉับพลัน

  • เหนื่อยง่ายผิดปกติ: แม้จะทำกิจกรรมที่เบา ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยอย่างผิดปกติได้

  • หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่เป็นจังหวะ: อาจรู้สึกถึงการเต้นที่ผิดปกติของหัวใจ เช่น ใจสั่น หรือเต้นรัว

 

 

การวินิจฉัยโรคหัวใจ

  • ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram - EKG): ตรวจสอบการทำงานของหัวใจผ่านการบันทึกคลื่นไฟฟ้า


  • ตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพาน (Stress Test): ทดสอบการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย เพื่อดูการตอบสนองของหัวใจต่อการออกแรง


  • ตรวจภาพหัวใจด้วยคลื่นเสียง (Echocardiogram): ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อสร้างภาพของหัวใจและตรวจสอบการทำงานของกล้ามเนื้อและลิ้นหัวใจ


  • ตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยการฉีดสี (Angiography): การฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจเพื่อดูภาพที่ชัดเจนของการอุดตันหรือความผิดปกติ

การรักษาโรคหัวใจ

การรักษาโรคหัวใจขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค ซึ่งอาจประกอบด้วย:

  • การใช้ยา: ควบคุมอาการ ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล และป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  • การทำหัตถการ: เช่น การทำบอลลูนเพื่อขยายหลอดเลือด หรือการผ่าตัดบายพาสเพื่อสร้างทางเลือดใหม่
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต: ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
  • การติดตามการรักษากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ: เพื่อประเมินการฟื้นฟูและปรับปรุงการรักษาให้เหมาะสม

สรุป

โรคหัวใจเป็นโรคร้ายที่ควรให้ความสำคัญและป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้อย่างมาก อย่าละเลยสัญญาณเตือนและควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อดูแลหัวใจให้แข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว

LINE Connect สแกนเพิ่มเพื่อนกับเราทางไลน์