
โรคหัวใจ: ภัยเงียบที่ควรรู้จักและป้องกัน
โรคหัวใจ เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลกและประเทศไทย เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกายอย่างรุนแรง การรู้จักโรคหัวใจและวิธีการป้องกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก
ประเภทของโรคหัวใจ
-
โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease - CAD)
- เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปยังหัวใจตีบหรืออุดตัน ส่งผลให้หัวใจได้รับเลือดและออกซิเจนน้อยลง
- อาการที่พบได้บ่อย เช่น เจ็บหน้าอกขณะออกแรง, เหนื่อยง่าย, หายใจลำบาก
-
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial Infarction - MI)
- หรือที่เรียกกันว่า “หัวใจวาย” เกิดจากหลอดเลือดที่อุดตันอย่างเฉียบพลัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจส่วนหนึ่งเสียหายจากการขาดเลือด
- อาการเฉียบพลัน ได้แก่ เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง, เหงื่อออกมาก, คลื่นไส้, หายใจไม่ออก
-
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia)
- ภาวะที่หัวใจเต้นเร็วเกินไป ช้าเกินไป หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เลือดไม่สามารถสูบฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อาการที่อาจเกิดขึ้น เช่น ใจสั่น, เวียนศีรษะ, เป็นลม
-
โรคลิ้นหัวใจ (Valvular Heart Disease)
- เกิดจากความผิดปกติของลิ้นหัวใจ เช่น การตีบตันหรือรั่ว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ
- อาการที่พบ เช่น เหนื่อยง่าย, หายใจลำบาก, เจ็บหน้าอก
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ
-
กรรมพันธุ์: หากมีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นโรคหัวใจ โอกาสที่คุณจะเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
-
พฤติกรรมการใช้ชีวิต: การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
-
อาหารที่ไม่เหมาะสม: อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง น้ำตาลสูง และเกลือมากเกินไป สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้
-
ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ: ความเครียดเรื้อรังและการนอนหลับที่ไม่เพียงพอมีผลต่อการเพิ่มความดันโลหิตและส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
อาการของโรคหัวใจ
-
เจ็บแน่นหน้าอก: มักเกิดขณะออกแรงหรือเครียด รู้สึกเหมือนมีน้ำหนักกดทับบริเวณหน้าอก
-
หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม: โดยเฉพาะเมื่อออกแรงหรือเมื่อนอนราบ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดหัวใจหรือหัวใจล้มเหลว
-
เวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม: อาจเกิดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือความดันโลหิตที่ต่ำลงอย่างฉับพลัน
-
เหนื่อยง่ายผิดปกติ: แม้จะทำกิจกรรมที่เบา ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยอย่างผิดปกติได้
-
หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่เป็นจังหวะ: อาจรู้สึกถึงการเต้นที่ผิดปกติของหัวใจ เช่น ใจสั่น หรือเต้นรัว
การวินิจฉัยโรคหัวใจ
-
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram - EKG): ตรวจสอบการทำงานของหัวใจผ่านการบันทึกคลื่นไฟฟ้า
-
ตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพาน (Stress Test): ทดสอบการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย เพื่อดูการตอบสนองของหัวใจต่อการออกแรง
-
ตรวจภาพหัวใจด้วยคลื่นเสียง (Echocardiogram): ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อสร้างภาพของหัวใจและตรวจสอบการทำงานของกล้ามเนื้อและลิ้นหัวใจ
-
ตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยการฉีดสี (Angiography): การฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจเพื่อดูภาพที่ชัดเจนของการอุดตันหรือความผิดปกติ
การรักษาโรคหัวใจ
การรักษาโรคหัวใจขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค ซึ่งอาจประกอบด้วย:
- การใช้ยา: ควบคุมอาการ ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล และป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- การทำหัตถการ: เช่น การทำบอลลูนเพื่อขยายหลอดเลือด หรือการผ่าตัดบายพาสเพื่อสร้างทางเลือดใหม่
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต: ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
- การติดตามการรักษากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ: เพื่อประเมินการฟื้นฟูและปรับปรุงการรักษาให้เหมาะสม
สรุป
โรคหัวใจเป็นโรคร้ายที่ควรให้ความสำคัญและป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้อย่างมาก อย่าละเลยสัญญาณเตือนและควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อดูแลหัวใจให้แข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว
LINE Connect สแกนเพิ่มเพื่อนกับเราทางไลน์