Skip to content
มะเร็งปากมดลูก วัคซีน HPV อาการของมะเร็งปากมดลูก

"มะเร็งปากมดลูก" ภัยเงียบของผู้หญิง มีอาการแบบไหนบ้าง?

Hugsook |
"มะเร็งปากมดลูก" ภัยเงียบของผู้หญิง มีอาการแบบไหนบ้าง?
2:56

มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้หญิงไทย โดยเฉพาะในผู้ที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ การเช็กความเสี่ยงของตนเองจะช่วยให้สามารถป้องกันและลดโอกาสในการเกิดโรคได้มากขึ้น

มะเร็งปากมดลูกคืออะไร?

 มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณปากมดลูก ซึ่งเป็นส่วนล่างของมดลูกที่เชื่อมต่อกับช่องคลอด โดยเกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก หากไม่ได้รับการตรวจพบและรักษาแต่เนิ่น ๆ อาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

กลุ่มเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) สายพันธุ์หลัก เป็นชนิดสายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งเป็นไวรัสที่แพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หากคุณมีปัจจัยต่อไปนี้ ควรเฝ้าระวังและเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ
   1. เริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงอายุที่ยังน้อยอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV
   2. มีคู่นอนหลายคน เพิ่มโอกาสในการได้รับเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
   3. ไม่เคยรับการฉีดวัคซีน HPV วัคซีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   4. ไม่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) และ HPV DNA Test เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยตรวจพบความผิดปกติก่อนที่มะเร็งจะลุกลาม
   5. สูบบุหรี่ สารพิษในบุหรี่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ส่งผลให้เซลล์ปากมดลูกเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง
   6. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อ HIV หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
   7. มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก ความเสี่ยงของคุณอาจสูงกว่าปกติ

อาการของมะเร็งปากมดลูก

     ในระยะเริ่มต้น มะเร็งปากมดลูกมักไม่มีอาการชัดเจน แต่เราสามารถสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเองได้ แต่เมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม อาจพบอาการดังต่อไปนี้

  1. เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เช่น มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกระหว่างรอบเดือน
  2. เลือดออกหลังจากหมดประจำเดือน หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ
  3. ตกขาวมีกลิ่นเหม็นและมีสีผิดปกติ
  4. ปวดท้องน้อย โดยเฉพาะปวดบริเวณหัวหน่าว หรือปวดเวลามีเพศสัมพันธ์
  5. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  6. ปวดหลัง ขาบวม ไตวาย (กรณีที่มะเร็งมีระยะลุกลามรุนแรง)
  7. ปัสสาวะลำบาก หรือมีเลือดปนในปัสสาวะในระยะลุกลาม

     ข้อมูลจากรายงาน Cancer in Thailand Vol.X 2016-2020 โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในหญิงไทย โดยมีอัตราการเกิดโรคลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการรณรงค์ให้มีการตรวจคัดกรองและการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม มะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 5 ในผู้หญิงไทย

จากสถิติพบว่า

  • มีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยวันละ 6 คน หรือประมาณ 2,238 คนต่อปี
  • มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 15 คน หรือประมาณ 5,422 คนต่อปี

     ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองและการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและการเกิดโรคในอนาคต

การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

การตรวจคัดกรองช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรักษา โดยวิธีการคัดกรองที่แนะนำ ได้แก่

  • การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) ตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ควรตรวจครั้งแรกเมื่ออายุ 21 ปี และตรวจซ้ำทุก 3 ปี
  • การตรวจหาเชื้อ HPV (HPV DNA Test) ค้นหาเชื้อไวรัส HPV ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก แนะนำให้ตรวจร่วมกับ Pap Smear ในสตรีอายุ 30 ปีขึ้นไป

วิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูก

  • ฉีดวัคซีน HPV การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี (HPV) เป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากเชื้อเอชพีวีเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก การฉีดวัคซีนเอชพีวี จะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 - 2 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน นอกเหนือจากการรับวัคซีน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางการป้องกัน และรักษาที่สำคัญ
  • ใช้ถุงยางอนามัย เพิ่มโอกาสลดการติดเชื้อ HPV แม้ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
  • งดสูบบุหรี่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
  • ตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพื่อค้นหาและรักษาความผิดปกติก่อนลุกลาม

     มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ หากมีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมและตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ การรู้จักปัจจัยเสี่ยงและวิธีป้องกันจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น อย่าลืมเช็กความเสี่ยงของตนเอง และให้ความสำคัญกับการป้องกันตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว


คุณกำลังสงสัยอยู่หรือไม่!!.... ว่าคุณเองกำลังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกอยู่ ลองหาคำตอบของคุณในแบบประเมินความเสี่ยงโรคมะเร็งนี้ได้เลย…

 

 

Share this post