Skip to content

ความเครียด...ภัยเงียบทำลายสุขภาพที่คุณอาจไม่รู้ตัว

Hugsook |
ความเครียด...ภัยเงียบทำลายสุขภาพที่คุณอาจไม่รู้ตัว
3:25

ทำไม “ความเครียด” จึงเป็นภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม?

ในยุคที่ทุกอย่างต้องเร็ว ต้องทัน ต้องสำเร็จ ความเครียดกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายคน โดยที่บางครั้งเราอาจไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเครียดอยู่

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า ความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายในระยะยาว และหากไม่จัดการให้ดี ความเครียดสามารถนำไปสู่ภาวะเรื้อรัง เช่น โรคซึมเศร้า โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจได้


สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลัง “เครียดเกินไป”

หลายคนเข้าใจว่า “ความเครียด” ต้องแสดงออกอย่างรุนแรง แต่ในความจริง สัญญาณของความเครียดอาจแฝงตัวอย่างแนบเนียน เช่น

  • ปวดศีรษะหรือไมเกรนบ่อย ๆ
  • นอนหลับยาก หลับไม่สนิท
  • ใจสั่น เหนื่อยง่าย
  • ขี้หงุดหงิดหรืออารมณ์แปรปรวน
  • ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลง เช่น ท้องเสียหรือท้องผูก
  • ขาดสมาธิ ทำงานผิดพลาดบ่อย

หากคุณมีอาการเหล่านี้บ่อยครั้ง อาจถึงเวลาที่ต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่า "คุณกำลังใช้ชีวิตด้วยความเครียดมากเกินไปหรือไม่?"


ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?

  1. ระบบหัวใจและหลอดเลือด เมื่อเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง และเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
  2. ระบบภูมิคุ้มกัน ความเครียดที่เรื้อรังสามารถกดภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ติดเชื้อง่าย และหายจากโรคช้าลง
  3. สุขภาพจิต ภาวะวิตกกังวล นอนไม่หลับ หรือซึมเศร้า ล้วนเป็นผลจากความเครียดที่ไม่ได้รับการจัดการ
  4. ระบบย่อยอาหาร ความเครียดเกี่ยวข้องกับโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ และภาวะลำไส้แปรปรวน (IBS)

วิธีจัดการความเครียดแบบยั่งยืน

แม้ความเครียดจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะ “อยู่ร่วม” กับมันได้อย่างชาญฉลาด

  1. หายใจลึก ๆ และฝึกสติ การฝึกสมาธิหรือ Mindfulness ช่วยให้สมองผ่อนคลาย ลดระดับคอร์ติซอล และทำให้มีสติอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น
  2. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนอย่างมีคุณภาพเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูสมองและร่างกาย
  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพียงเดินวันละ 30 นาที ก็ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขในร่างกาย
  4. พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ การแบ่งปันความรู้สึกกับคนที่เข้าใจ ช่วยให้คลายความตึงเครียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ
  5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากรู้สึกว่าความเครียดรบกวนชีวิตประจำวัน ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือนักบำบัดที่มีใบอนุญาต

ดูแลใจให้มากพอ ๆ กับการดูแลกาย ความเครียดไม่ใช่เรื่องเล็ก มันอาจไม่ได้แสดงออกชัดเจนในวันนี้ แต่ผลกระทบในระยะยาวสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราได้โดยไม่รู้ตัว การเรียนรู้ที่จะเข้าใจ ปรับตัว และหาวิธีจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม คือสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้ง “กาย–ใจ”


Blog [Add friend] - ตรวจสุขภาพทั่วไป (Checkup)
LINE Connect สแกนเพิ่มเพื่อนกับเราทางไลน์

Share this post